วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

tenth class of AI613

Enterprise System, Supply Chain Management and Enterprise Resource Planning
ระบบสารสนเทศแบบเดิมมักประสบปัญหาข้อมูลนั้นกระจัดกระจายไปทั่วองค์กรเนื่องจากแต่ละแผนกในองค์กรนั้นมีระบบ สารสนเทศเป็นของตนเอง บางครั้งจึงขาดประสิทธิภาพ หรือไม่ทันต่อเวลา เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว Enterprise system จึงเกิดขึ้น เพื่อจัดการระบบองค์กรซึ่งจะมีฐานข้อมูลที่เก็บข้อมูลจากทุกหน่วยงานไว้ที่เดียวกัน ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น share ข้อมูลกันได้ดีขึ้น แต่ละแผนกสามารถใช้ข้อมูลส่วนกลางที่ตัวเองสนใจได้
อุปสรรคของการนำ Enterprise Systems มาใช้
แม้ Enterprise System จะเป็นระบบที่ดีแต่ก็ไม่นิยมนำมาใช้เนื่องจาก
·         ราคาแพง
  • บางองค์กรมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะใช้ระบบ
  • ความคุ้นชินของผู้ทำงาน  จึงไม่ต้องการนำระบบใหม่มาแทนระบบเดิม

ประโยชน์ของ Enterprise Systems
  • ช่วยให้การทำงานระหว่างระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น หรือสามารถค้นหาข้อมูลได้ทันที
  • ให้การประสานงานระหว่างกันดีขึ้น ส่งผลถึงดีต่อ Supply Chain Management  รวมไปถึงการ outsource ที่จะทำให้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากมีระบบข้อมูลที่ดี ทำให้การติดต่อsupplier เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ

Supply Chain Management  กระบวนการตั้งแต่สั่งสินค้าจาก Supplier จนถึงการส่งสินค้าไปยังมือลูกค้าการบริหารภายในต้องสามารถเชื่อมต่อกับบุคลากรภายนอกด้วย โดยSCM จะนำระบบสารสนเทศมาใช้เพื่อแบ่งปันและส่งผ่านข้อมูลให้กระบวนการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ

 ระบบที่ถูกนำมาใช้ใน SCM
·         Warehouse Management System (WMS) ระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าให้สามารถใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด  เช่น จำนวนสินค้า ตำแหน่งที่วางสินค้า การเข้าออกของสินค้า การควบคุมความปลอดภัย การระบุตำแหน่งของสินค้า
·         Inventory Management System (IMS) โปรแกรมบริหารจัดการสินค้าคงคลัง
·         Fleet Management system ระบบที่ช่วยติดตามการบริหารการขนส่ง ว่าขณะนี้สินค้านั้นอยู่ที่ไหน จะส่งอะไรมา  นอกจากนี้ยังมีการรายงานข้อมูลกลับมาที่สำนักงานเพื่อการขนส่งที่รวดเร็ว
·         Vehicle Routing and Planning ระบบที่ใช้วางแผนคำนวณเส้นทางเพื่อให้มีระยะทางสั้นที่สุดเพื่อจะประหยัดน้ำมันที่สุด
·         Vehicle Based System บริหารจัดการรถขนส่ง ในการตรวจสอบสถานะที่อยู่ปัจจุบัน เช่น ระบบ GPS ติดตาม
Enterprisewide Systems แบ่งเป็น
·         ERP ช่วยในการบริหารข้อมูล และทรัพยากรต่างๆในองค์กร
·         CRM ช่วยในการสื่อสารระหว่างองค์กรกับลูกค้า
·         Knowledge Management System(KM) คอยเก็บข้อมูลต่างๆในองค์กร
·         Supply Chain Management(SCM) ระบบที่ช่วยในการบริหารสายการผลิต
·         Decision Support System(DSS) ให้ข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจขงผู้บริหาร
·         Business Intelligence(BI) ระบบที่ช่วยสนับสนุนการทำงานต่างๆในองค์กร

10 IT Trends for Logistics Supply Chain Management
1.    Connectivity การเชื่อมต่อผ่าน wireless, Bluetooth, GPRS
2.    Advanced Wireless wireless ที่เป็นแบบ advance มีการใช้เสียง เช่น การใช้มือถือเพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลสินค้า
3.    Speech Recognition การสั่งงานด้วยเสียง
4.    Digital Imaging เป็นการประมวลผลภาพดิจิตอลเข้าสู่ระบบ
5.    Portable Printing เครื่องพิมพ์แบบพกพา
6.    2D & other barcoding advances เป็นบาร์โค้ด 2 มิติ
7.    RFID ชิพที่ฝังอยู่ในแถบสินค้าซึ่งสามารถส่งสัญญาณออกมาด้วยตัวเองได้ Real Time Location
8.    System; RTLS ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง
9.       Remote Management ระบบจัดการทางไกล
10.   Security เรื่องความปลอดภัยของระบบไร้สาย                      

Collaborative Planning   การวางแผนที่จะทำอย่างไรให้ทุกคนในทุกแผนกองค์กรสามารถใช้ระบบร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นแผนการผลิต การจัดจำหน่าย และการหมุนของสินค้า  มีการร่วมมือ shareข้อมูลกัน ทำให้ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดสินค้าคงคลัง และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
Vendor Managed Inventory (VMI)  การแบ่งปันข้อมูลระหว่างองค์กรและ supplier โดยจะมีการตรวจสอบระบบสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่องหากสินค้านั้นลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้จะมีการส่งใบคำสั่งซื้อแก่ supplier โดยอัตโนมัติ
ประโยชน์ของ E-Business Systems & Supply Chains
·         ทำวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
·         ลดความเสี่ยงในการบริหาร
·         การเก็บสินค้าในคลังสินค้าน้อยลง
·         ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
·         เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันส่งผลให้บริษัทได้ผลกำไรมากขึ้น

Enterprise Resource Planning (ERP) Systems  ช่วยในการวางแผนจัดการ และบริหารการใช้ทรัพยากรทุกประเภทในองค์กรทั้งหมด ช่วยให้แต่ละแผนกในองค์กรเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึง ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความสามารถในการทำกำไร อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างทันเวลา ซึ่งช่วยให้สามารถลดต้นทุนได้ โดยตัวอย่างเช่น SAP, Oracle, PeopleSoft เป็นต้น
            SAP ทำให้สามารถติดต่อกันได้ทุกแผนกงาน ในโปรแกรมก็จะมีหลายๆ module ตัวหลักๆก็คือ Finance , Accounting , Sales , Material Management , Human

ERP-Lease or Buy?  การที่องค์กรนั้นจะตัดสินใจที่จะซื้อหรือพัฒนาซอฟต์แวร์ความจำเป็นขององค์กรที่จะต้องใช้ระบบดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน มีทรัพยากรเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ซึ่งหากองค์กรดังกล่าวมีความจำเป็นมากก็อาจทำการซื้อหรือเช่าจาก Application Service Providers (ASP)

IT Hype
1. Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีเสมือนจริงที่เอามาผนวกเข้ากับเทคโนโลยี Software และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ  ประกอบด้วย
·         กระบวนการวิเคราะห์ภาพ โดยวิเคราะห์และสิบค้นจากข้อมูลจากฐานข้อมูล
·         กระบวนการคำนวณตำแหน่งเชิง 3 มิติ
·         กระบวนการสร้างภาพ 2 มิติ
ข้อดี
  • สร้างประการณ์ที่แปลกใหม่
  • ค้นหาตำแหน่งและรายละเอียดของสินค้าได้ชัดเจน
  • สร้างแคมเปญง่าย
  • เพิ่มโอกาสทางการตลาด
ข้อเสีย
  • ไม่เหมาะกับคนที่ไม่รู้เทคโนโลยี
  • เข้าถึงได้จำกัด
  • ขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล
2. Mobile Operating Systems ระบบปฏิบัติการในมือถือ บอกว่ามือถือเราใช้ App อะไรได้บ้าง มีหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลและแสดงผลบนหน้าจอ  ตัวอย่างเช่น Symbian OS, Blackberry OS, iPhone OS, Window mobile OS และ Android เป็นต้น
3. Video Telepresence  เป็นระบบที่พัฒนามาจากระบบ Video Conference แต่เสมือนจริงมากกว่าเนื่องจาก มีระบบเสียงคมชัด, ระบบภาพเท่าตัวคนและไม่ delay, ระบบไม่ซับซ้อน, ความน่าเชื่อถือสูง
แต่มีข้อจำกัดด้านต้นทุนรวมถึงค่าใช้จ่ายในการค่าบำรุงด้วย
4. SOA  เป็นแนวคิดการออกแบบและวางโครงสร้างของ software ในองค์กรขนาดใหญ่ โดยให้ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะที่ต้องการได้ ซึ่งช่วยให้การเชื่อมโยงระหว่างองค์กรทำได้ง่ายมากขึ้นรวมถึงยังช่วยลดค้าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและการซ่อมบำรุงลง เนื่องจากไม่ติดกับระบบใดระบบหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น