วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Sixth class of AI613

E-Commerce พาณิชย์อิเลคทรอนิคส์
ธุรกิจการซื้อขายสินค้า (ตัวอย่าง)
-Dellสามารถชนะคู่แข่งได้ เพราะใช้อินเตอร์เนท(ช่วงแรก) เพราะคู่แข่ งมัวแต่คิดว่าต้องไปขายตามซุปเปอร์  เป็นนวัตกรรมใหม่ ณ ตอนนั้น
-Ebay กำไรค่อนข้างดีเพราะใช้หลักทางจิตวิทยาว่าคนอยากชนะ เลยต้องรีบมาบิดก่อนหมดเวลา
-Amazon ใช้ข้อได้เปรียบนี้ที่ร้านหนังสืออื่นไม่สามารถมีสินค้าเป็นหมื่นได้ แต่อเมซอนทำ longtail ได้ เลยได้ลูกค้ามากกว่า
-Paypal จ่ายเงินออนไลน์ครั้งเดียวเสร็จ ไม่มีการเก็บข้อมูลเหมือนบัตรเครดิตที่ เพื่อแก้ปัญหาความไม่ไว้วางใจกับการทำธุรกรรมกับผู้ที่เราไม่รู้จัก
ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี E-Commerce
- ทำให้สามารถสร้ายยอดขายได้มากขึ้น จากเดิมขายได้แค่ประเทศไทยก็ไปขายต่างประเทศได้ด้วย
- เพิ่มจำนวนกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น
- สามารถซื้อขายอยู่ที่บ้าน ไม่เสียทั้งทรัพยากรเวลา และค่าเดินทาง
 แต่การใช้ E-commerce ยังคงมีข้อจำกัดจาก มาตรฐานของเทคโนโลยีที่ใช้แต่ละรายคนอาจใช้แตกต่างกัน รวมถึงอาจมีไวรัสเกิดขึ้นได้

Health Informatics
การนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ

ระบบสารสนเทศสุขภาพ (Health Information) หมายถึง สารสนเทศที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข และกิจกรรมสาธารณสุข โดยสารสนเทศสุขภาพแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1.       ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม เช่น อายุ เพศ ระดับการศึกษา สถานภาพ อาชีพ ศาสนา เชื้อชาติ และข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงประชากร เช่น การเกิด การตาย การย้ายถิ่น , ด้านเศรษฐกิจเช่น GDP  ด้านสังคม เช่น ข้อมูลด้านการศึกษา อัตราการว่างงาน พฤติกรรมสุขภาพ เป็นต้น และด้านข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม
2.       ข้อมูลด้านสถานสุขภาพ หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของบุคคลและชุมชน ตั้งแต่เกิด เจ็บป่วยจนตาย
3.       ข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลทุกประเภทที่ทำหน้าที่ให้บริการสาธารณสุขอาจเป็นบุคคลที่ได้รับการฝึกฝนด้านนี้โดยเฉพาะ เช่น แพทย์ เภสัชกร พยาบาล ผดุงครรภ์ นักวิชาการสาธารณสุข
4.       ข้อมูลด้านกิจกรรมสาธารณสุข เช่น ข้อมูลด้านส่งเสริมสุขภาพ ด้านการป้องกันและควบคุมโรค ด้านการรักษาพยาบาล
5.       ข้อมูลด้านการบริหารจัดการ หมายถึง ข้อมูลที่ใช้ในการวางแผน ควบคุมกำกับงาน วิเคราะห์สถานการณ์ และการประเมินผล ข้อมูลด้านการบริหารจัดการแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ ข้อมูลด้านนโยบาย และข้อมูลประกอบการบริหาร


ประโยชน์ของสารสนเทศสุขภาพ
ประโยชน์ของสารสนเทศสุขภาพ คือ ทำให้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสาธารณสุข เช่น สถานสุขภาพ ปัญหาสุขภาพ ปัญหาสุขภาพอนามัยของประชากร ปัญหาและอุปสรรคในการให้บริการสาธารณสุข ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงานบริการสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

องค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างสารสนเทศ
ประกอบด้วย ความรู้ในศาสตร์รวมทั้งสาขาที่เกี่ยวข้อง เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ และการสื่อสารโทรคมนาคม และสถิติศาสตร์

ระบบสารสนเทศสาธารณสุข จำแนกตามภารกิจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
1.       ระบบสารสนเทศสาธารณสุขเพื่อการบริหาร
-          ระบบสารสนเทศเพื่อการวางแผนกลยุทธ์
-         ระบบสารสนเทศเพื่อการควบคุมและการจัดการ
-          ระบบสารสนเทศเพื่อการควบคุมด้านการปฏิบัติงาน
2.       ระบบสารสนเทศสาธารณสุขเพื่อการบริการ เกี่ยวกับการจัดการทางการแพทย์และสาธารณสุข เช่น
-          ระบบสารสนเทศการบริการ เกี่ยวกับการจัดการเกี่ยวกับผู้ป่วย การรับผู้ป่วย การจำหน่ายผู้ป่วย การส่งต่อ การนัดหมายผู้ป่วย
-          ระบบสารสนเทศทางคลินิก เช่น ระบบเวชทะเบียนผู้ป่วย ระบบแพทย์บันทึกข้อมูล วินิจฉัยและสั่งยา
3.       ระบบสารสนเทศสาธารณสุขเพื่องานวิชาการ
เกี่ยวข้องกับองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น ระบบการประชุมวิชาการทางไกลทางด้านสาธารณสุข ระบบเครือข่ายสารสนเทศสุขภาพชุมชน ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพสำหรับประชาชน เผยแพร่ความรู้

ตัวอย่างการใช้ Health Informatics เช่น ระบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วย เช่น ชื่อ, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, การแพ้ยา, อุณหภูมิและความดันเลือดรายวัน, ข้อมูลการรักษา, ยาที่ให้ผู้ป่วย ระบบนี้จะทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยของสถานพยาบาลบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยรายหนึ่งอาจได้รับการรักษาจากแพทย์หลายคนซึ่งอาจเกิดปัญหาความสับสนเกี่ยวกับการรักษาว่าได้รักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ระบบนี้จะช่วยให้แพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดความผิดพลาดได้อีกด้วย

web 2.0
มีคุณลักษณะหลักๆ ดังนี้
1. ให้บริการหรือสามารถใช้งานผ่านทาง "web browser" ได้ 
2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "website" สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น  
3. ให้ความสำคัญกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะมีส่วนร่วมต่อเว็บไซต์มากขึ้น
4. มีคุณสมบัติที่เรียกว่า RIA (Rich Internet Application) คือมี user interface ที่ดียิ่งขึ้น เช่น คุณสมบัติ drag & drop
5.มีการพัฒนาและการโต้ตอบระหว่างผู้ให้บริการ และผู้ใช้งาน แทนที่จากระบบเว็บแบบเก่า ที่เป็นลักษณะของการให้บริการอ่านอย่างเดียว
6.มีความรวดเร็ว และความง่ายดายของการส่งข้อมูล
7.มีคุณสมบัติที่เรียกว่า mash-up คือการนำฟังก์ชั่นการใช้งานจากเว็บหลายๆที่ๆมาผนวกเข้าด้วยกัน

ตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0 ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
YouTube
เว็บไซต์ที่ให้บริการฟรีเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถ upload และแลกเปลี่ยนคลิปวิดีโอได้อย่างอิสระจากทั่วทุกมุมโลก โดยแสดงภาพวิดีโอจากซอฟต์แวร์ Macromedia Flash
MySpace
เปิดโอกาสได้สร้างเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับเพื่อนในกลุ่ม
Facebook
เว็บไซต์ลักษณะเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใช้เพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน
Wikipedia  
เป็นเว็บไซต์สารานุกรมออนไลน์หลายภาษาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากแต่กำลังได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เนื้อหาที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือและถูกต้องมากน้อยเพียงไร
ผลกระทบของ WEB 2.0
การตลาด
สังเกตได้ว่ายุคสมัยนี้ตลาดบนอินเตอร์เน็ทเริ่มเปลี่ยนแปลงให้เป็นตลาด นิช มากขึ้น และ Website 2.0 ก็เป็นรูปแบบของ นิช มาร์เก็ดติ้ง ซึ่งต้องต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ใช้ให้มีความสอดคล้องมากขึ้นให้หลาย ๆ ด้าน เช่นการโฆษณาในอดีตการโฆษณาสินค้าต่าง ๆ นั้นผู้ขายอาจจะทำการสร้าง เว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาและทำการโฆษณาสินค้าที่ตัวเองต้องการขาย แต่ใน WEB 2.0 เป็นในลักษณะที่ผู้ซื้อต้องการซื้อสินค้าใดก็ไม่จะเป็นต้องรู้จักชื่อเว็บไซต์เลยก็ได้ เพียงแค่ทำการค้นหาจากเว็บไซต์ที่เป็น Search engine ก็สามารถที่จะได้รายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีสินค้าหรือบริการ ที่คุณต้องการอาจจะรวมถึงข้อมูลรายละเอียดของสินค้าหรือบริการในรูปแบบใหม่ต่าง ๆ
การชื้อ ขาย
ไม่จำเป็นต้องเสียค้าใช่จ่ายในการจัดตั้งร้านค้าให้สิ้นเปลืองทำให้ต้นทุนลดลง ซึ่งส่งผลให้สินค้ามีราคาถูกกว่าตามตลาดทั่วไป มีข้อดีหลายประการ เช่น ไม่จำเป็นต้องเดินทาง สะดวกสบาย สามารถที่จะหาสินค้าที่ไม่มีตามร้านปกติได้ เป็นต้น
การโปรโมชั่น
การบอกกล่าว ข่าวสารสินค้าหรือบริการใหม่นั้น ทางผู้ขายสินค้าหรือบริการได้มีการปรับเปลี่ยนการโฆษณาให้เป็นไปในลักษณะการสร้างกระแสคลื่นแบบปากต่อปากได้ ผ่านการสื่อสารของ WEB 2.0 รวมถึงสามารถสื่อสารด้านข้อมูลของสินค้าหรือบริการเพิ่มเติมได้ด้วย
ถ้าต้องการที่จะทำการ เปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงข้อมูลสินค้า แต่ก่อนอาจจะทำได้โดย Webmaster หรือคนดูแลเว็บไซต์เท่านั้น แต่ในปัจจุบันสามารถสื่อสารตอบโต้ได้ทั้งผู้สร้างเว็บและผู้ใช้เว็บ ดังเช่น Blog หรือการ Post กระทู้ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลถึงการตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าหรือรับบริการของลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น